…..ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝน เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา ณ วัดมัชฌันติการาม ในวันที่ 5-6 กรกฎาคม 2563
…..อานิสงส์การถวายผ้าอาบน้ำฝน…..
ผ้าอาบน้ำฝน หรือที่เรียกกันว่า ผ้าวัสสาวาสิกพัสตร์ หมายถึง ผ้าจำนำพรรษา การถวายทานชนิดนี้นิยมทำกันตอนเข้าพรรษาเฉพาะปลายฤดูร้อนต้นฤดูหนาวเท่านั้น โดยจะถวายในวันเข้าพรรษาของทุกๆปี มีประวัติสืบมาแต่ครั้งพุทธกาล ว่า
…..ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี ในวันหนึ่งนางวิสาขาพร้อมทั้งบริวารเป็นอันมาก ได้ถือเอาเครื่องสักการะไปสู่สำนักของพระพุทธเจ้า เมื่อถวายเครื่องสักการะแล้วนางวิสาขาและบริวารเป็นอันมาก บังเอิญไปพบพระภิกษุเปลือยกายอาบน้ำฝนกันอยู่เป็นจำนวนมาก นางวิสาขาเห็นเข้าเช่นนั้นก็เกิดความละอาย คิดในใจว่าพระภิกษุเหล่านี้ไม่มีผ้าอาบน้ำฝน จีงไปกราบทูลขออนุญาตต่อพระพุทธเจ้าขอถวายผ้าอาบน้ำฝนอีกผืนหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต จึงได้มีการถวายผ้าอาบน้ำฝนตั้งแต่นั้นมา
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “บุคคลใดมีศรัทธาถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงส์ในพระพุทธศาสนาจะมีอานิสงส์เป็นอเนกประการ” จากนั้นพระองค์จึงนำเอาอดีตนิทานมาแสดงต่อนางวิสาขาและบริวารว่า
ในสมัยหนึ่งพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า สมเด็จพระวิปัสสี มีหญิงยาจกคนหนึ่ง ชื่อว่า อมัยทาสี อยู่มาวันหนึ่ง นางเห็นคนทั้งหลายนำผ้าอาบน้ำฝนไปถวายก็อยากจะทำบุญบ้าง แต่ว่าตัวเองเป็นคนยากจนไม่มีผ้าไปถวาย พลางคิดว่าสาเหตุที่เรายากจน คงเป็นเพราะชาติก่อนไม่เคยทำบุญไว้เป็นแน่ …เมื่อมองหาสิ่งอื่นที่จะนำไปเป็นผ้าถวายได้ นางจึงตัดสินใจนำใบไม้ปกปิดร่างกายแล้วถอดเสื้อผ้าที่ตัวเองนุ่งห่มอยู่ไปถวายเป็นผ้าอาบน้ำฝน แล้วตั้งความปรารถนาว่า “ด้วยอานิสงส์ที่ทำบุญในครั้งนี้ขึ้นชื่อว่าความยากจนทั้งหลาย อย่าได้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเลยในทุกภพทุกชาติ ในอนาคตกาลของให้ได้ไปเกิดทันศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย”
……ด้วยอานิสงส์ของการทำบุญ หลังจากนั้นอีก 7 วัน พระเจ้าพันธุมหาราชกษัตริย์ผู้ครองเมือง ได้เสด็จไปพบนางในขณะนางกำลังหาบฟืนมาในระหว่างทาง จึงเกิดความรักในตัวนางเป็นอย่างมาก จึงนำนางขึ้นรถกลับไปสู่พระนคร อภิเษกนางให้อยู่ในตำแหน่งอัครมเหสีอยู่ต่อมา ครั้นเมื่อนางสิ้นชีพแล้วไปบังเกิดบนสวรรค์เสวยทิพยสมบัติ พระองค์ได้ทรงพยากรต่อไปว่าในชาติสุดท้ายนางจะได้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยและได้บรรลุธรรมพิเศษตามที่ปรารถนา…
คำกล่าวถวายผ้าอาบน้ำฝน
อิมานิ มะยัง ภันเต วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ